ขับรถเช่าให้ปลอดภัย กับ JTCARRENT มี 5 เทคนิค
พูดถึงการที่คุณเช่ารถมาใช้บริการ เพื่อเดินทางไปตามที่คุณอยากไป ในเวลาที่คุณไม่สะดวกมีรถยนต์ การเช่ารถเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทาง ซึ่งสะดวกสบายกว่ารถโดยสารที่แออัดไปด้วยผู้คนที่คุณอาจไม่ชอบไปยื้อแย่ง หรือรอเวลาขึ้นลงรถไฟรถทัวร์หรือรถตู้ที่อาจจะไม่ทันใจ หรือไปไม่ถึงที่ทีเราอยากไป
เมื่อเราได้เช่ารถจาก JTCARRENT แล้วออกเดินทาง จะต้องมีเทคนิคอะไรในการขับรถให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง และกลับมาคืนรถเช่าให้ตรงเวลาไร้รอยขีดข่วน ทาง รถเช่า JTCARRENT มีเทคนิคง่ายๆมาบอก !!
1. เมื่อเช่ารถมาแล้วควรขับความเร็วที่กฏหมายกำหนด
เป็นเรื่องที่อาจจะเป็นสิ่งที่ต้องคิดไว้เสมอ ไม่ว่าจะขับรถตัวเอง หรือ ไปเช่ารถที่ไหนมา เพราะอาจจะโดนค่าปรับ หากไม่รู้กฏระเบียบการจราจร เนื่องจาก อุบัติเหตุบนท้องถนน อันดับต้นๆ เลย สำหรับการที่มีพวกนักซิ่งตีนผีตีนนรก ที่จะขับรถในความเร็วที่เกินกำหนด ด้วยเหตุว่า "ความคะนอง", "รีบ" หรือ "แฟนตาม" อะไรก็เหอะ ยังไงก็พึงเอาไว้ว่า วิ่งทางพวกนี้ ไม่เกินเท่านี้ ที่กำหนดมา ซึ่งแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้
- ไม่เกิน 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่กฏหมายกำหนด
2. ดื่มไม่ขับ
เรื่อง "เมาแล้วขับ" ยิ่งประเทศไทย เป็นอันดับต้นๆ ที่ผู้ขับขี่ เสียชีวิตจากกรณีเมาแล้วครับเสมอ จากอุบัติเหตุทั่วโลก แน่นอน การที่เมาแล้วขับ จะถูกจับทั้งจำและปรับ แถมเข้าไปเที่ยวห้องขังกินข้าวฟรี 1 เดือน โดยไม่ต้องรอลงอาญา แถมอาจจะมีการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมด้วย ฉะนั้น หากไม่อยากจะถูกตราหน้าว่า "ฆ่าคนตาย" หรืออย่างไร ควรหาเพื่อนที่ร่วมทางไปด้วยที่ขับรถเป็น ติดไปด้วยก็ไม่เสียหลาย หรือ ไปถึงที่พักอะไรแล้ว ก็ไม่ต้องเอารถเช่าออกไป เรียก taxi ไปดีกว่า พอสร่างเมา ค่อยขับรถเช่าที่เช่ามา ออกไปก็ยังได้
3. คำนวณเวลาแล้ววางแผนให้ดี ก่อนขับรถเช่า
น่าจะเป็นเรื่องที่จะทำให้เราเดินทางได้อย่างราบรื่น และสามารถบริหารเวลาได้อย่างดี ไปในตัว " เช่น จะเช่ารถกรุงเทพ เดินทางไปท่องเที่ยว กาญจนบุรี ต้องไปเส้นทางไหน ที่ใช้เวลาได้น้อยที่สุด และศึกษาเส้นทางว่า ระหว่างทาง สามารถเติมน้ำมัน ตรงไหน และที่นั่น มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง เวลาเปิด-ปิด จะได้ไม่เสียเที่ยว และสิ้นเปลืองน้ำมัน รวมไปถึงเส้นทางระหว่างที่พัก และที่ท่องเที่ยว อีกด้วย แค่นี้ก็ไม่มีคำว่า "เสียเที่ยว" แน่นอน หากใครล้ำหน่อย ก็เปิด googlemap ประกอบในการเดินทางไปด้วยก็ได้ เพราะอาจจะทำให้เราคลาดเคลื่อนได้ หากเชื่อแต่ระบบ googlemap อย่างไรแล้ว ก็ให้ศึกษาจากแผนที่ไว้ด้วย จะได้เป็นการประกอบการตัดสินใจในขณะขับรถไปด้วย
ด้านการเลือกรถเช่ามาใช้บริการนั้น เราต้องรู้คอนเซ็ปท์ของการเดินทางของตัวคุณเอง ว่า ต้องการรถเช่าในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ขนาดเล็ก, รถยนต์ขนาดกลาง หรือ รถยนต์ขนาดใหญ่ อย่าง รถกระบะ หรือ รถ 4WD รวมไปถึง ที่หมายที่คุณจะเดินทางไป ว่ามันมีสภาพถนนเช่นไร เช่น เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ก็เน้นรถยนต์ที่สามารถขับขึ้นเขาได้ หรือ เดินทางไปยังจังหวัดทางภาคใต้, ภาคอีสาน หรือ ภาคตะวันออก ก็แนะนำให้เป็นรถยนต์ขนาดกลาง หรือ รถตู้ ฯลฯ
เรื่องสุดท้าย ก็คือ เรื่องสตางค์ในกระเป๋าของเราเอง ก็ต้องดูว่า เรามีกำลังทรัพย์มากน้อยเพียงใด จะได้เตรียมรถเช่าที่เหมาะสมกับคุณ และเซฟค่าใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่าที่พักโรงแรมที่จะไปพัก และ ค่ากินต่างๆ ในการท่องเที่ยว เป็นต้น
4. ไม่ไหวอย่าฝืน..!!!!!! ขับรถเช่า
เวลาขับรถทางไกล เป็นเวลานาน มักจะมีอาการล้าได้ ฉะนั้นหากขับรถทางไกล ไปที่ไหน ที่ต้องใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง ก็แวะยืดเส้นยืดสาย ปรับอิริยาบถบ้าง หรือแวะหากาแฟ ผ่อนคลาย แล้วค่อยเดินทางต่อ ซึ่งคุณสามารถถือโอกาสเช็คสภาพเครื่องยนต์เบื้องต้นของตัวรถยนต์ที่คุณเช่ารถกรุงเทพ ว่ามีอะไรผิดปกติ หรือไม่ เช่น หม้อน้ำแห้งหรือเปล่า น้ำปัดน้ำฝนมีมั้ย นอกจากนี้ เราต้องเก็บข้อมูลเรื่องเบอร์ฉุกเฉินเอาไว้ด้วยก็ดี เพราะจะได้ขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที จากเหตุสุวิสัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้
5. เช่ารถขับเอง ไม่ต้องไปเครียดมากเกินไป
คนเราทุกคน ต้องมีความวิตกกังวล ไม่เว้นแม่แต่การขับรถเช่า ที่อาจจะระวังมากจนเกินไป จนไปเกิดอะไรอย่างอื่นแทน ก็มี จนไม่มีสติและสมาธิในการขับขี่ ฉะนั้นให้คุณทำใจให้สบายๆ ไม่ต้องไปคิดอะไรเยอะ คิดเหมือนว่าเป็นรถเราเองแค่นี้ก็ทำให้การขับรถเช่า ออกเดินทางไปได้อย่างราบรื่น อะไรจะเกิดก็เกิด และเตรียมพร้อมไว้เสมอๆ โดยเฉพาะ คุณผู้หญิง ที่อาจจะเกิดอาการลนลาน ทำอะไรไม่ถูก หากเกิดปัญหาอะไร ก็ขอให้ใจเย็นๆ ไว้ และค่อยวางแผนแก้ไขปัญหาต่อไป หากเกิดปัญหาจนคิดอะไรไม่ออกสามารถโทรขอความช่วยเหลือจากทีมงาน JTCARRENT ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โทร 087-599-3621
080-459-8124