เผยข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า ที่คุณควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อ
รถยนต์ไฟฟ้า ยานพาหนะที่กำลังเป็นที่พูดถึงในนาทีนี้ หันไปไหนก็เจอแต่คำถามว่า "รถไฟฟ้าดีไหม" "น่าใช้ไหม" “ดีกว่ารถที่เติมน้ำมันยังไง” หรืออาจจะเป็นมุมที่น่าสนใจอย่างการประหยัดค่าเดินทางที่มากกว่ารถยนต์แบบเดิม ว่าแต่มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ไปดูกัน
ข้อดี
ค่าพลังงานถูก ก็เลยเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น โดยเมื่อเทียบค่าพลังงานของน้ำมันเบนซิน หรือดีเซล โดยเฉลี่ยอยู่ลิตรละ 30-40 บาท ซึ่งหากนำไปเติมรถยนต์น้ำมันรถประเภท SUV จะสามารถขับขี่ได้ระยะทางราวๆ 10-17 กิโลเมตร/ลิตร หรือถ้าเป็นรถยนต์ไฮบริดก็อาจจะได้ระยะทางเพิ่มขึ้นมาเป็น 15-24 กิโลเมตร/ลิตร
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่มีความแตกต่างกัน โดยหากชาร์จไฟที่บ้านผ่านมิเตอร์แบบ TOU ค่าพลังงานไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 2.6369 บาท/หน่วย ส่วนการชาร์จแบบ DC Fast charge ตามสถานีชาร์จสาธารณะ มักจะมีค่าบริการอยู่ประมาณ 7.5 บาท/หน่วย ซึ่งไฟฟ้า 1 หน่วย จะสามารถขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าได้ระยะทางราว 4-7 กิโลเมตร/หน่วย เลย
ดังนั้นหากเปรียบเทียบค่าพลังงานต่อกิโลเมตรแล้ว พบว่า
รถยนต์ไฟฟ้า มีต้นทุนค่าพลังงานเริ่มต้นเพียง 0.37 บาท/ 1 กิโลเมตร
รถยนต์น้ำมัน มีต้นทุนค่าพลังงานเริ่มต้น 1.76 บาท/ 1 กิโลเมตร
รถยนต์ไฮบริด มีต้นทุนค่าพลังงานเริ่มต้น 1.25 บาท/ 1 กิโลเมตร
2.ซ่อมแซมและบำรุงรักษาง่าย
รถยนต์ไฟฟ้า 100% ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนแทนการใช้เครื่องยนต์ ทำให้กลไกการทำงานอย่างอื่นลดลง การบำรุงรักษาเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ และส่วนของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือระบบเกียร์ ฯลฯ
3.ความเงียบของรถยนต์
รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์เพื่อการขับเคลื่อน ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ การทำงานภายในจึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงการทำงานของรถพลังงานไฟฟ้าเงียบกว่ารถยนต์แบบปกติทั่วไปหลายเท่า ทั้งยังช่วยลดมลภาวะทางเสียงจากการจราจรได้อีกด้วย
4. สมรรถนะของรถยนต์
สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เพราะหัวใจหลักคือมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถมีแรงบิดหรือแรงหมุนได้ในทันทีที่ได้รับไฟฟ้า จึงทำให้สามารถออกตัวได้เร็วและมีอัตราเร่งที่ดีกว่า สามารถรีดแรงบิดได้สูงในทันทีไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ทั่วไป
5. ด้านสิ่งแวดล้อม
ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องการสร้างรถยนต์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด จึงมีการผลักดันให้สร้างรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดขึ้นมา เพราะหนึ่งในตัวการที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศก็คือควันจากท่อไอเสียของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่หากเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแล้วจะไม่มีไอเสียออกมาเลย
6.ความสะดวกในการใช้งาน
สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่บ้าน ทำให้สามารถชาร์จได้ระหว่างการนอนหลับ พักผ่อน เมื่อถึงเวลาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าก็จะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน จึงทำให้ไม่ต้องเสียเวลาที่สถานีบริการเติมน้ำมันอีกต่อไป
7.เสถียรภาพราคาเชื้อเพลิง
การที่เปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน ทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายกว่าน้ำมันที่มีราคาผันผวนสูงตามราคาในตลาดโลก ส่วนค่าไฟฟ้าแม้จะมีการปรับราคาขึ้นตามต้นทุนพลังงาน แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าราคาน้ำมัน
8.ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
รัฐบาลมีนโยบายให้เงินอุดหนุนรถยนต์และรถกระบะคันละ 70,000-150,000 บาท/คัน และรถจักรยานยนต์ 18,000 บาท/คัน ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์จาก 8% เป็น 2% และรถกระบะเป็น 0% ลดอากรขาเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศ และนำเข้าทั้งคัน (CBU) สูงสุด 40% สำหรับรถยนต์ ในปัจจุบันทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลง ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ
ข้อเสีย
1.ราคาสูง
รถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นเทคโนโลยีใหม่ มักมีราคาค่อนข้างแพงกว่า
2.เทคโนโลยีใหม่มีระยะใช้งานจริงน้อย
ความเป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานไม่มากนัก และเทคโนโลยียังไม่ได้พัฒนาจนถึงขีดสุดถ้าเทียบเคียงกับรถสันดาป
3.ยังมีตัวเลือกไม่มาก
รถไฟฟ้าเป็นยานพาหนะเทคโนโลยีใหม่ จึงมีค่ายรถยนต์เพียงไม่กี่ค่ายเท่านั้นที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ออกสู่ตลาด รวมถึงมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่แต่ละค่ายแนะนำสู่ตลาด
4.ระยะทางในการขับขี่สั้นกว่า
ระยะทางในการขับขี่จะขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งอาจจะต้องมีการวางแผนการชาร์จระหว่างทาง สำหรับการขับขี่ในระยะไกล
5.สถานีบริการยังไม่ครอบคลุม
แม้จะมีการขยายสถานีบริการชาร์จไฟฟ้าจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันจุดให้บริการยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ยังไม่สะดวกหากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดที่เป็นระยะทางไกล
6.การบำรุงรักษา
รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก อาจจะต้องใช้เวลาเพื่อให้บุคลากรทางสายยานยนต์เรียนรู้เรื่องการบำรุงรักษาระบบต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องศึกษาดูว่ารถยนต์แบรนด์นั้นมีศูนย์บริการเพียงพอ ทั่วถึงทุกภูมิภาคของประเทศหรือไม่
7.การจัดการขยะจากแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันมีอายุการใช้งานที่จำกัด การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่การกำจัดแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพไปแล้วนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการกำจัดขยะแบตเตอรี่เหล่านี้ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาขยะโลกในอนาคตได้อีกด้วย
แต่ เรามีทางเลือกมาแนะนำ ให้ลูกค้าเปิดใจ ลองใช้บริการรถเช่าขับเองในการทดลองขับก่อนซื้อ ช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้าง่ายขึ้น และยังช่วยลดการเกิดทรัพยากรรถยนต์มือสองล้นตลาด ลดมลพิษ และมลภาวะได้อีกด้วย
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่แตกต่างออกไปจากที่เคยมี โดยเปลี่ยนได้ไม่มีซ้ำ ขอแนะนำ!
บริการ เช่ารถขับเองราคาถูก JT CARRENT บริการรถเช่า เช่ารถขับเอง
เช่ารถกรุงเทพ และปริมลฑล ออกต่างจังหวัดได้
เช่าง่าย ไม่ยุ่งยาก เช่ารถไม่ง้อบัตรเครดิต อายุ20ก็สามารถเช่ารถได้
มีบริการ รับรถ-ส่งรถ ฟรี!! สนามบินดอนเมือง หรือพื้นที่ใกล้เคียง
รถใหม่ป้ายแดง ราคาไม่แรงสบายกระเป๋า เช่ารถง่ายสบายใจไปกับเรา
Tel : 061-889-3662
LINE : @CARRENT_JT
www.jtcarrent.com