ข้อควรรู้ เกี่ยวกับใบขับขี่

ใบขับขี่ หาย ชำรุด ไม่ต้องแจ้งความ

        สำหรับผู้ที่ทำใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหายหรือชำรุด ไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความ เพราะสามารถติดต่อที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกในเขตพื้นที่อาศัยได้ เพียงแค่นำบัตรประชาชนฉบับจริงพร้อมสำเนาไปดำเนินการขอรับใบขับขี่ฉบับใหม่ โดยที่ไม่ต้องทดสอบภาคปฏิบัติ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้ใบขับขี่ดิจิทัลแบบชั่วคราวผ่านแอปพลิเคชัน DLT QR LICENCE เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ระหว่างรอใบขับขี่ใบใหม่ได้อีกด้วย

สอบใบขับขี่ รถยนต์,จักรยานยนต์ ต้องมีบัตรประชาชนตัวจริง

        สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการขอรับใบอนุญาตขับขี่ก็คือ บัตรประชาชนตัวจริง เพื่อใช้เป็นการยืนยันกับเจ้าหน้าที่ สำหรับท่านใดที่ทำบัตรประชาชนตัวจริงหายหรือชำรุด จะต้องดำเนินการทำใหม่ที่สำนักงานเขตให้เรียบร้อย เพราะไม่สามารถนำใบแจ้งความหรือสำเนาบัตรประชาชนมาใช้ทดแทนกันได้

ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัวไปสอบปฏิบัติ

        ขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถยนต์  เมื่อผ่านการอบรมและทำข้อสอบเรียบร้อยแล้ว ผู้ขับขี่ยังต้องสอบปฏิบัติเพื่อประเมินด้วยแต่โดยส่วนใหญ่จะนำรถมาเอง และส่วนน้อยจะไม่ทราบว่า ที่สำนักงานขนส่งทางบกจะมีบริการให้เช่ารถ เช่นกัน โดยมีอัตราค่าบริการประมาณ 100 บาท/ครั้ง ทั้งนี้ แต่ละเขตพื้นที่อาจมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป แต่บางเขตอาจยังไม่มีบริการดังกล่าว และกำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องเตรียมรถยนต์มาเองเท่านั้น JT CARRENT แนะนำว่าให้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่เสียก่อน จะได้ไม่พลาดโอกาสในการสอบ และเตรียมพร้อมได้ทันการ

ขอใบอนุญาตในการขับขี่ไม่สามารถจบได้ในวันเดียว

        การสอบใบขับขี่ในปัจจุบันได้มีข้อกำหนดที่เพิ่มมากขึ้น จากเดิมสามารถอบรมรวมถึงการสอบ และรอรับใบขับขี่ได้เลยเพียง 1 วัน แต่ในปัจจุบันผู้ขับขี่จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน สำหรับรายละเอียดมีดังนี้

วันที่ 1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย  อบรมใบอนุญาตจำนวน 5 ชม.

          และทดสอบข้อเขียน

วันที่ 2 ทดสอบขับรถยนต์ และรับใบอนุญาต

ไม่ต้องพกใบขับขี่ตัวจริงได้แล้ว

        จบปัญหาการลืมใบขับขี่ แค่โหลดแอปพลิเคชัน DLT QR LICENCE เพื่อใช้งานใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ ก็ไม่จำเป็นต้องพกใบขับขี่ตัวจริงแล้ว ทั้งนี้ ยังสามารถใช้สำเนาใบขับขี่ หรือภาพถ่ายที่มีแทนได้เช่นกัน โดยจะต้องเห็นข้อมูลบนบัตรที่ชัดเจนเท่านั้น

ใครที่ไม่มีสิทธิ์สอบใบอนุญาตขับขี่

        ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถสอบใบขับขี่ หรือได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ ตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบก สามารถแบ่งบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์สอบใบอนุญาตขับขี่ ได้ดังนี้

·      ผู้ที่อยู่ระหว่างการยึดใบขับขี่

·  ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบขับขี่ ในกรณีนี้ถ้าถูกเพิกถอนใบขับขี่ จะสามารถสอบใบขับขี่ได้ก็ต่อเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาไปแล้ว 3 ปีนับตั้งแต่วันแรกที่ถูกเพิกถอนไป

·  ผู้พิการทางร่างกาย ตั้งแต่ แขน ขา ตาบอด หูหนวก และลำตัวพิการที่เป็นเหตุไม่สามารถทำให้ขับรถยนต์ได้

·      ผู้ที่มีความผิดปกติทางประสาทและป่วยทางจิต

·      ผู้ที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงอันเป็นที่น่ารังเกียจต่อสังคม

·      ผู้ที่ติดสุรา ของมึนเมา และผู้ที่ติดยาเสพติดทุกประเภท

·  ผู้ที่เคยได้รับการจำคุกที่มีความผิดเกี่ยวกับคดีรถค่ะ แต่ในที่นี้ยกเว้นผู้ที่ได้รับโทษฐานทำความผิดโดยประมาทและต้องได้รับการพ้นโทษมาแล้วเกิน 3 ปี

·      ผู้ที่ถูกควบคุมตัวเพราะมีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม

·      ผู้ที่มีข้อกล่าวหาหรือถูกพิพากษาถึงที่สุดและถูกเจ้าพนักงานเปรียบเทียบมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ตามความผิดดังต่อไปนี้ (และเมื่อพ้นโทษเหล่านี้ไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน จึงสามารถมาทำเรื่องขอใบอนุญาตขับขี่ได้ค่ะ)

·      ขับขี่ฝ่าฝืนสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจร

·      ขับขี่ขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น

·      ขับขี่ในลักษณะกีดขวางการจราจร

·      ขับขี่โดยใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

·      ขับขี่โดยประมาณหรือน่าหวาดเสียว

·      ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น

รวมถึงผู้ที่เป็นโรคที่มีความเสี่ยงได้ทั้งหมด 5 โรคดังต่อไปนี้

1.     โรคเท้าช้าง

2.     โรควัณโรค

3.     โรคเรื้อน

4.     โรคพิษสุราเรื้อรัง

5.     โรคยาเสพติดให้โทษ

ใบขับขี่หมดอายุ ไม่เกิน 1 ปี รับบัตรใหม่ได้เลย

        การต่อใบขับขี่ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่ใบขับขี่หมดอายุ สามารถดำเนินการขอรับใบใหม่ได้โดยไม่จำเป็นต้องอบรม หรือสอบใหม่ ส่วนผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องผ่านการสอบข้อเขียนให้คะแนนผ่านร้อยละ 90 จากคะแนนสอบทั้งหมด และใบขับขี่ที่หมดอายุเกิน 3 ปี จะต้องผ่านการสอบข้อเขียน สอบปฏิบัติ และต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการขอต่ออายุใบขับขี่อีกด้วย

ใบขับขี่หมดอายุสามารถเช่ารถได้ไหม?

          ต้องการ เช่ารถ ไปทำธุระ เดินทางออกต่างจังหวัด หรือไปเที่ยวพักผ่อน แต่พึ่งรู้ตัวว่าใบขับขี่หมดอายุแจ้งทำการต่อใหม่ก็คงไม่ทัน ในส่วนของกรณีใบขับขี่หมดอายุแต่ยังมีใบขับขี่ตัวจริงอยู่ที่ตนเอง สามารถ เช่ารถขับเอง ได้ตามปกติ เพียงยื่นเอกสาร ตามที่ทางบริษัทแต่ละบริษัทกำหนด หากเจอเจ้าหน้าที่เรียกเมื่อไร อาจจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทางที่ดีแนะนำให้ต่อใบขับขี่โดยเร็ว ซึ่งตอนนี้สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ถึง 3 เดือน

----------- JT CARRENT เช่ารถขับเอง ยินดีให้บริการ -----------

ร้านเรามีรถให้เลือกหลายรุ่นหลายสไตล์ราคาสะบายกระเป๋า ไม่ว่าจะมีบัตรเครดิต หรือไม่มีบัตรเครดิตก็เช่าได้
 ติดต่อเช่ารถกับเราได้ที่ 

LINE ID : @carrent_jt

INSTAGRAM : JT_CARRENT

TIKTOK : รถเช่าขับเองราคาถูก JT CARRENT

เบอร์ติดต่อ : 061-889-3662